นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท อัสลาน เวลธ์
จำกัด (“บริษัท ฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
(“นโยบาย ฯ”) ถือว่าเป็นประกาศความเป็นส่วนตัว ทำขึ้นเพื่อแจ้งต่อ “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Subject)
เกี่ยวกับหลักการและนโยบายการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลโดยบริษัท ฯ ซึ่งอยู่ในฐานะ
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Controller) ทั้งนี้ เพื่อยืนยันว่าบริษัท ฯ
จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ของการให้บริการที่บริษัท ฯ
ได้แจ้งต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแจ้งหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่บริษัท ฯ
นำมาปรับใช้ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง
หลักการและนโยบายการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ฯ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. วัตถุประสงค์
การประกอบกิจการของบริษัท ฯ อันเป็นการให้บริการแก่ลูกค้านั้น บริษัท ฯ
มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลส่วนบุคคล
อย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อนำมาประกอบใช้กับการดำเนินกิจการ การให้บริการและส่งเสริมการให้บริการของบริษัท ฯ
รวมถึงยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำกระบวนการในการทําความรู้จักลูกค้า ที่สามารถ ระบุตัวตน
และพิสูจน์ตัวตนได้อย่างถูกต้องเพื่อการตรวจสอบการทุจริตและข้อผิดพลาดย้อนหลัง ดังนั้น
เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ ภายในบริษัท ฯ มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
และเป็นไปตามข้อกำหนดกฎเกณฑ์ของบรรดากฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัท ฯ จึงจัดทำนโยบาย ฯ
ฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยนโยบาย ฯ
ฉบับนี้ให้นำมาปรับใช้แก่บุคคลใด ๆ ผู้เกี่ยวข้อง กับการประกอบกิจการของบริษัท ฯ
2. บทนิยาม
“บริษัท ฯ ” หมายถึง บริษัท อัสลาน เวลธ์ จำกัด
“ท่าน” หมายถึง ลูกค้าบุคคลธรรมดาผู้ใช้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท ฯ
“ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data)” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้
ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, อีเมล์,
เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data)” หมายถึง
ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ
ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความเสี่ยงในการถูกนำมาใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น
เชื้อชาติและเผ่าพันธุ์, ความคิดเห็นทางการเมือง, ความเชื่อเกี่ยวกับลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา,
พฤติกรรมทางเพศ, ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ, ความพิการ, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, ข้อมูลพันธุกรรม,
ข้อมูลชีวภาพ และ/หรือข้อมูลใด ๆ
ที่อาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject)” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยในกรณีนี้ให้หมายถึง ลูกค้า และผู้มีส่วนได้เสียกับบริษัทฯซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data controller)” หมายถึง
บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีนี้ให้หมายถึง บริษัท อัสลาน เวลธ์ จำกัด
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจาก 2 แหล่งที่มาไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ดังนี้
1. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ในการสร้างบัญชีและเข้าถึงบริการของบริษัท ฯ บริษัท ฯ
จะขอให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการให้บริการ เช่น เพื่อการยืนยันตัวตนของ หรือ ตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ
ที่กฎหมายกำหนด ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ฯ ทำการเก็บรวบรวม มีรายละเอียดดังนี้
ข้อมูลระบุตัวตน
● ชื่อ-นามสกุล, วัน/เดือน/ปีที่เกิด, ที่อยู่ตามบัตรประชาชน, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์
หรือเอกสารแสดงตนที่ออกโดยประเทศหรือรัฐบาลของคุณ เพื่อยืนยันข้อมูลแสดงตัวตนของท่าน
● ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว ข้อมูลการเปรียบเทียบแบบจำลองใบหน้าในลักษณะ Live Selfie
และข้อมูลศาสนาตามหน้าบัตรประชาชน
● ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติ ข้อมูลประวัติการทำงาน, ผลการทดสอบความเหมาะสมในการลงทุน
ระดับความเสี่ยงในการลงทุน ที่ประเมินโดยระบบของบริษัท ฯ
2. เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติด้วยระบบ
เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชม หรือทำการล็อกอินเข้ามาในเว็บไซต์ และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัท ฯ ระบบของบริษัท ฯ
จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้แก่ หมายเลข IP Address, Cookie,
พฤติกรรมการใช้บริการ, ประวัติการใช้บริการ เป็นต้น
บริษัท ฯ จะทำการเก็บรวบรวมรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องตามกฎหมายและ
เพื่อใช้ประมวลผลตามขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในข้อ 4 ของ นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
4. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เท่านั้น
(“ฐานการประมวลผล”)
บริษัท ฯ ใช้ฐานการประมวลผลฐานใดฐานหนึ่งดังต่อไปนี้ในการประมวลผลข้อมูลของท่าน:
1. เพื่อปฏิบัติตามสัญญาหรือหน้าที่ที่บริษัทฯมีต่อท่าน หรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
2. เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ
3. เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท ฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4. เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัท ฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ
5. เมื่อเป็นกรณีที่จำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพ
ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว บริษัท ฯ
จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยยึดถือแนวปฏิบัติตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดอย่างเคร่งครัด
โดยจะต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนเสมอ
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ
จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่กฎหมายอนุญาต
เช่น ในกรณีที่ทางบริษัท ฯ หรือบุคคลภายนอก
● มีความจำเป็นจะต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อจะให้บริการที่ท่านร้องขอ
● มีหน้าที่ต่อสาธารณะหรือหน้าที่ทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม
● มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำรายงานตามกฎหมาย
การดำเนินคดีหรือการก่อตั้งหรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องและผลประโยชน์ตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือบุคคลภายนอก
● มีเหตุผลทางธุรกิจอันชอบธรรมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
● มีความจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน/หรือ
●ได้รับการขออนุญาตจากท่านหรือจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่านเพื่อที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและท่านหรือบุคคลดังกล่าวได้ให้ความยินยอม
สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
หรือข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง
นอกจากฐานการประมวลผลที่ได้กล่าวมาแล้ว บริษัท ฯ จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวตามข้อกำหนดอื่น ๆ
ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนด
การเปิดเผยข้อมูลในบางกรณีอาจต้องอาศัยฐานการประมวลผลมากกว่าหนึ่งฐาน ในกรณีดังนี้ ทางบริษัท ฯ
อาจใช้ฐานการประมวลผลที่ระบุไว้ฐานหนึ่งฐานใดในการเปิดเผยข้อมูล บริษัท ฯ
อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นให้แก่ผู้อื่นซึ่งรวมไปถึง
● ผู้รับจ้าง ตัวแทน หรือผู้ให้บริการซึ่งให้บริการหรือทำงานให้กับบริษัท ฯ
● ผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud)
● หน่วยงานภาครัฐ ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานป้องกันการฉ้อโกง
หน่วยงานด้านภาษีและผู้ตรวจสอบ และ
● บุคคลอื่นที่บริษัท ฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ตามคำสั่งของท่าน
ในกรณีผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มีการระบุไว้ข้างต้นอยู่นอกราชอาณาจักร บริษัท ฯ
จะดำเนินการให้แน่ใจว่าการส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศจะเป็นไปตามหลักการที่ระบุใน ข้อ 6
นโยบายความส่วนตัวฉบับนี้ บริษัท ฯ จะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่อธิบายไว้
หากบริษัท ฯ
มีความประสงค์ที่จะเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลอื่นเพิ่มเติมซึ่งไม่ได้แจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
บริษัท ฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ/หรือขอความยินยอมจากท่านก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
6. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ มีการจัดเก็บ (Storage) อยู่ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไว้บน Server ของผู้ให้บริการ Cloud
Service เว้นแต่การจัดเก็บในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นการเพิ่มขั้นตอนกระบวนการเกินสมควร บริษัท ฯ
จะจัดเก็บในรูปแบบเอกสารวัตถุที่สำนักงานของบริษัท ฯ อนึ่ง ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง ข้อกำหนด
หรือนโยบายของบริษัท ฯ กำหนดให้เอกสารต้องทำเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ
หรือมีเอกสารมาแสดงในลักษณะที่มิใช่เอกสารอิเล็คทรอนิกส์ บริษัท ฯ
จะจัดเก็บหนังสือหรือเอกสารดังกล่าวในรูปแบบเอกสารวัตถุที่สำนักงานของบริษัท ฯ อย่างเหมาะสม
7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ข้อกำหนดและข้อยกเว้นของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้:
● สิทธิในการถอนความยินยอม: ท่านสามารถถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท ฯ
โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มีอยู่ก่อนที่การถอนความยินยอมของท่านจะมีผลบังคับในกรณีที่ความยินยอมจากท่านไม่ใช่เงื่อนไขบังคับ:
การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้บริษัท ฯ
มีข้อจำกัดในการมอบสิทธิประโยชน์หรือประสบการณ์การใช้บริการอย่างเต็มรูปแบบของผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ท่านได้รับ
ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ในกรณีที่ความยินยอมจากท่านเป็นเงื่อนไขบังคับ:
การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจส่งผลให้การให้บริษัท ฯ ต้องจำกัด ระงับ ยกเลิก ยุติการให้บริการแก่ท่าน
หรือสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการให้บริการแก่ท่าน แล้วแต่กรณีไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม บริษัท ฯ
จะไม่รับความรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากกรณีที่การถอนความยินยอมของท่านนำไปสู่การที่บริษัท ฯ
ต้องระงับ ยกเลิก
ยุติการให้บริการแก่ท่านหรือสงวนสิทธิในการปฏิบัติการให้บริการแก่ท่านทุกประการในกรณีที่การถอนความยินยอมของท่านนำไปสู่
การจำกัด ถูกระงับ ยกเลิก หรือต้องห้ามภายใต้กฎหมาย
ระยะเวลาดำเนินการตามสิทธิ : ภายใน 30 วัน หลังจากคำร้องได้รับอนุมัติ
● สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล:
ท่านมีสิทธิในการได้รับสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ฯ
และมีสิทธิในการตรวจสอบว่าบริษัทฯได้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ระยะเวลาดำเนินการตามสิทธิ: ภายใน 30 วัน หลังจากคำร้องได้รับการอนุมัติ
● สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน:
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับท่านซึ่งบริษัท ฯ เก็บรวบรวมไว้โดยไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้อง ให้ถูกต้อง
เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ระยะเวลาดำเนินการตามสิทธิ : ภายใน 7 วันหลังจากคำร้องได้รับอนุมัติ
● สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคล: ท่านสามารถขอให้บริษัท ฯ
ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้หากมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าข้อมูลบุคคลของท่านนั้นมีการเก็บรวบรวม
ใช้ และเปิดเผยโดยมิชอบ หรือเห็นว่าหมดความจำเป็นที่จะให้บริษัท ฯ เก็บรวมรวบ ใช้
และเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ใดที่ได้ให้ความยินยอมไว้หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิถอนความยินยอมที่แจ้งไว้ข้างต้น
นอกจากนี้
ท่านยังมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทฯลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในข้อถัดไป)
ระยะเวลาดำเนินการตามสิทธิ : ภายใน 30 วันหลังจากคำร้องได้รับการอนุมัติ
● สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล:
ท่านสามารถคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัท ฯ
อาศัยฐานการประมวลผลเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯหรือของบุคคลภายนอก
หากมีกรณีที่ทำให้ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ นอกจากนี้
ท่านยังมีสิทธิในการคัดค้านไม่ให้บริษัท ฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบตรง
ระยะเวลาดำเนินการตามสิทธิ : ภายใน 30 วันหลังจากคำร้องได้รับอนุมัติ
● สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่ 1. บริษัท ฯ
อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล 2.
เป็นข้อมูลที่ต้องลบหรือทำลายแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอให้ระงับการใช้แทน 3. กรณีอื่นใดที่บริษัท ฯ
หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่เจ้าของข้อมูลขอให้บริษัท
ฯ ระงับการใช้แทน หรือ 4. บริษัท ฯ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์เหตุการยกเว้นความยินยอมอันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ระยะเวลาดำเนินการตามสิทธิ : ภายใน 30 วันหลังจากคำร้องได้รับอนุมัติ
● สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูล:
ท่านมีสิทธิขอให้มีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลหรือองค์กรอื่น เว้นแต่บริษัท ฯ
ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ระยะดำเนินการตามสิทธิ : ภายใน 30 วันหลังจากคำร้องได้อนุมัติ
● สิทธิในการร้องเรียน: ท่านสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนต่อหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเขตอำนาจได้
หากท่านเชื่อว่าบริษัทฯไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องหากท่านต้องการใช้สิทธิ
กรุณากรอกแบบฟอร์ม "การถอนความยินยอม" หรือ "แบบฟอร์มการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล" ได้ที่ aslan
Chat บนหน้าเว็บไซต์ และ/หรือ แอพพลิเคชั่นของบริษัท ฯ โปรดทราบว่าบริษัท ฯ
จะขอให้ท่านแสดงหลักฐานยืนยันตัวตนของท่านต่อบริษัท ฯ ก่อนที่บริษัทฯจะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่าน
บริษัท ฯ จะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่านโดยไม่ชักช้าและจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าหากบริษัท
ฯต้องเพิ่มเวลาในการดำเนินการดังกล่าวโปรดทราบว่าสิทธิต่าง ๆ
ของเจ้าของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นไม่ใช่สิทธิเด็ดขาดเนื่องจากเป็นสิทธิที่ต้องคำนึงถึงประโยชน์อันชอบธรรมของทางบริษัท
ฯ และข้อกำหนดของกฎหมายด้วย ทั้งนี้ บริษัท ฯ
สงวนสิทธิในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการตามคำขอของท่านตามประกาศของบริษัท ฯ
8. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัท ฯ
ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของท่าน ดังนั้นบริษัท ฯ
จึงมุ่งเน้นที่จะรับรองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัท ฯ
มีการตรวจสอบและใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ทั้งด้านความพร้อมและเหมาะสมเชิงอุปกรณ์ เชิงเทคนิค
และเชิงองค์กร เพื่อให้ท่านมีความมั่นใจในการบริหารจัดการของบริษัท ฯ
ในการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข
หรือสูญหาย บริษัท ฯ จึงได้สร้างความตระหนักด้านความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นที่ยอมรับ
พร้อมกับการบริการความต่อเนื่องทางธุรกิจ และเป็นไปตามกฎหมายกำหนด บริษัท ฯ
มีมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยกำหนดให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการของบริษัท
ฯ เช่น พนักงาน ตัวแทน ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้แนะนำการลงทุนของบริษัท ฯ
เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ ซึ่งบุคคลที่บริษัท ฯ อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
จะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ฯ อย่างเคร่งครัด
ตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยบริษัท ฯ
มีมาตรการป้องกันทั้งทางกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อบริษัท ฯ ทำสัญญา หรือ ข้อตกลงกับบุคคลภายนอก บริษัท ฯ
จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม
เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ฯ ครอบครองจะมีความปลอดภัย ทั้งนี้
บริษัทฯมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ตามประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เรื่องมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
(1) การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และอุปกรณ์ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
โดยคำนึงถึงการใช้งานและความมั่นคงปลอดภัย
(2) การกำหนดเกี่ยวกับการอนุญาตหรือการกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
(3) การบริหารการเข้าถึงของผู้ใช้งาน (User Access Management)
เพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว
(4) การกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน (User Responsibilities)
เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้
หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล การลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(5) การจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ
หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายและหน้าที่ของท่านในการแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและ/หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงลักษณะการให้บริการของบริษัท ฯ ทั้งนี้ บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบทุกครั้ง
ผ่านการลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ
โปรดแจ้งให้บริษัท ฯ ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (หากมี)
ตลอดระยะเวลาที่คงความสัมพันธ์กับบริษัทฯ
เพื่อให้บริษัทสามารถปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน